วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การทำ Ground Wire ใช้เอง

สวัสดีครับ วันนี้ได้ไปแถวคลองถม เลยไปหาซื้ออุปกรณ์มาทำกราววายใช้เองเห็นแบบชุดสำเร็ จที่ร้าน ราคา 1,700 บาท ต่อแล้วได้แค่ 1600 เอง ทำเองดีกว่า เราต้องดูว่าสายใส้ในมันเป็นเงินล้วนๆหรือเปล่า ส่วนใหญ่ถ้าถูกๆใส้ในจะเป็นทองแดงมันเป็นตัวนำไฟฟ้าท ี่ไม่ค่อยดีสู้เงินไม่ ได้คงต้องผ่าสายกันดูเลยละ ผมติดมาเป็นเงินล้วนๆผ่าดูกันเลย มันเลยแพง 4,500 บาท ไปติดมาจากร้าน Bay emotion อยู่แถว อรุณอัมรินทร์ ใช้แล้วดีขึ้นอยู่ในระดับน่าพอใจ หลักการมันมีอยู่ว่าปกติรถยนต์ทุกคันจะเดิน สาย ground แบบรวมเพื่อประหยัดและง่ายต่อการใช้งาน แต่ที่นี้เราต้องเข้าใจก่อนว่า ground รวมที่ว่าก็คือการอาศัยโครงรถตัวถังและเครื่องยนต์ใน ส่วนที่เป็นโลหะซึ่ง เป็นตัวนำไฟฟ้า เป็นเหมือนสายไฟขั้วลบเส้นหนึ่ง แต่ว่าไอ้การที่ใช้พวกโลหะ,เหล็ก อลูมิเนียม หรืออื่นๆ ที่อยู่ในรถแทนสายไฟเนี้ย ก็จะมีจุดด้อยอยู่ด้วยคือ ตามพื้นฐานที่พวกท่านๆรู้กันอยู่ว่า เจ้าพวกโลหะพวกนี้เป็นสื่อทางไฟฟ้าที่ยังไม่ดีเท่าไร ถ้าเทียบกับสายไฟธรรมดาที่เป็นทองแดงแล้วยังห่างไกลเ ลย แล้วยังมีตัวแปรในการเชื่อมต่อของตัวรถอีก จำพวกน็อตยึดตามจุดต่อต่างๆ เลยทำให้ค่าความต้านทานมีมาก ส่งผลให้กระแสไฟไหลไม่สะดวกจึงทำให้ระบบต่างๆ ในตัวรถที่เกี่ยวกับไฟฟ้ายังทำงานได้ไม่เต็มที่นัก ที่เล่ามาข้างต้นเป็นเหตุและผลของการทำ ground wire เอาแบบภาษาไทยตามความเข้าใจก็คือ การเดินสายไฟขั้วลบให้รถเพึ่มเข้าไป โดยที่เนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่สร้างเส้นทางลัดทางด่วนให้กับไฟขั้วลบนั้นเอง ส่งตรงไปยังจุดที่สำคัญๆ ที่มีการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งจะส่งผลให้การไหลเวียนของระบบไฟฟ้าโดยรวมดีขึ้น ยังผลให้ระบบต่างๆของรถทำงานดีขึ้น จะเห็นผลชัดเจนมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า ground เดิมๆนั้นแย่มากแค่ไหน........
แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า หน้าตามันอาจไม่เหมือนที่วางขายอยู่ในตามร้านขายของแ ต่ยี่ห้อต่างๆ เพราะว่าผมทำเอาสรรพคุณของมันไม่ได้ต้องการทำเอาเหมื อนหรือเลียนแบบรูปร่าง และหน้าตาแต่ว่าก็ show ได้นะครับ ไม่อายใครแน่นอน ขึ้นอยู่กับฝีมือการทำและการเดินสายของเจ้าตัวคนทำนะ รายการอุปกรณ์การทำ 1.หางปลาใหญ่สีทอง 5 ตัว เกียร์ธรรมดา , 6 ตัว เกียร์ auto 2.ขั้วทอง 24 K ใช้เป็นต้วรวมสายทั้งหมด 3. สายไฟแบตสัก 8 มม. หรือสายลำโพงอย่างดี แล้วแต่งบประมาณ แต่ขอให้ไส้ในโตสัก 3-4 มม. ความยาวก็วัดจากรถแล้วค่อยไปซื้อ แต่อย่าลืมหารสองของความยาวทั้งหมดก่อนซื้อ เพราะว่าเราสามารถฉีกสายออกเป็นสองเส้นได้ ประหยัดงบดี (เป็นสายทำจากทองแดงหรือเงินก็ได้ อาจเป็นแบบผสมก็ได้) 4.ท่อหด 25 มม. ไว้เก็บงานช่วงข้อต่อรวมสาย เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบ (ไม่ใช้ก็ได้)
ผม เริ่มจากการใช้สายลำโพงโดยไปซื้อที่คลองถมน่ะครับ ลองเดินๆ ดูหลายๆ ร้านก็ดีครับอาจจะได้ถูกกว่าผมซื้อนะ สายลำโพงมีหลายแบบหลายขนาดมากครับ ที่เลือกมาเป็นแบบ สายหุ้มเงิน 7KL ราคาเมตรละ 120 บาท ต่อได้ 3 เมตร 350 บาท (ซื้อมาเยอะมากเลย กะทำสองคันเลย:-) ส่วนร้านที่บ้านหม้อที่ผมเคยซื้อเมตรละ 50 บาท เลยอยากแนะนำคนอื่นที่อยากทำบ้าง ลองไปดูร้านขายสายไฟเยอะ ๆ ที่บ้านหม้อแถวร้านสหพิพัฒน์ ส่วนหางปลาก็อยู่ตรงฟุตปาทหน้าร้านขายสายนั่นแหละครั บ รับรองราคาถูกจนตกใจ หางปลาผมเลือกเบอร์ 10 (ที่จริงเบอร์เล็กกว่านี้ก็ได้ครับ) ราคาตัวละ 15 บาทถ้วนเบอร์ใหญ่ แข็งมากเวลาบีบ ต้องบัดกรีด้วย ไม่งั้นไม่ยอมอยู่ ส่วนสายรัดพลาสติกหรือ เคเบิลไทน์ มีหลายสีหลายขนาด ผมเลือกเป็นแบบเล็กๆ 4 นิ้ว ตก ห่อละ 8 บาทและ 8 นิ้ว ตกห่อละ 15 บาท

หรือเอาสายดีๆๆหน่อย ผมใช้สายไฟสำหรับเเบตเตอรี่เครื่องเสียง เเล้วแต่ทุนทรัพย์เรานั้นเเหละว่าจะใช้ดีหรือไม่ดีเเ บบไหนยิ่งคุณภาพดีไฟก็ ยิ่งเดินสะดวกขึ้นลองถามร้านเครื่องเสียงที่รู้จักคร ับว่าขายเมตรเท่าไร ถ้ามันกดราคามากก็ฝากเพื่อนซื้อที่สะพานเหล็ก เฉลี่ยเเล้วเมตรไม่เกิน 35 ประมาณนะ ใช้ซัก6-7 เมตร ไม่เเน่ใจบางร้านก็ขายไม่เท่ากันอีก แต่ถ้าให้ดีมียี่ห้อหน่อยละก้อ ใช้สายไฟยี่ห้อ FURAGAWA รุ่น ------- ราคาประมาณเมตรละ 750 บาท ที่ร้าน ROCKET SOUND ลงมือทำ เอา หล่ะมาเริ่มกันซักที เริ่มจากสวดมนต์ก่อน ไม่ใช่!! เริ่มจากฉีกสายลำโพงที่ซื้อมาออกจากกัน จาก 3 เมตร ตอนนี้ก็กลายเป็น 6 เมตรแล้ว ตอนเลือกสายลำโพงพยายามเลือกที่เป็นสายโตๆ หุ้มเงิน จะเวิร์คกว่าสายเส้นเล็กๆ นะครับสายยางหุ้มสายลำโพงอีกชั้นหนึ่ง สายพวกนี้ถามเจ้าของร้านแล้ว มันไม่ได้กันความร้อนนะครับ เป็นท่อยางฉีดน้ำนั่นเอง ถ้าจะเอาท่อกันความร้อนแพงมั๊กๆ เลย และไม่สวยด้วยครับ คือเวลาเพื่อนๆ ทำเล่นกัน ก็อาจจะต้องเดินสายหลบพวกจุดที่ร้อนมากๆ น่ะครับ หรือไม่ถ้าจะเอาดีเลยก็หาสายแบบกันความร้อน จะเป็นท่อยางหนาๆ ใหญ่ๆ ( เท่าที่เห็นนะ ) การใส่สายลำโพงเข้าไปในสายยาง ใช้วาสลีน หรือน้ำมันพืช ทาสายลำโพงนิดหน่อย มันจะเข้าง่ายไม่ติดขัด... มาต่อกัน เป็นสายรัดพลาสติก เอามาสองแบบ แบบเล็กกับใหญ่ เอาไว้รัดเวลาเดินสายในห้องเครื่อง มีหลายสี อยู่ที่ความชอบส่วนตัวครับ หาง ปลาเบอร์ 10 ครับ ผมเอามา 10 ตัว แต่จริงๆ เอามาเยอะกว่านี้ก็ได้นะครับ เผื่อเหลือเผื่อขาด ตัวล๊อค เห็นของมอเตอร์ไซค์สวยดี เลยเอามาลองใส่ดู มันพอดีกับหางปลายด้วย หางปลาที่เอาไว้ใส่สายไฟ แพงไปครับ ผมซื้อแบบหนาแล้วใช้คีมย้ำสายใหญ่ อันละ 5-7 บ.เองครับ หาซื้อตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ครับ แล้วสายไฟใช้แค่ 3 ม.เองหรือ ผมทำกันต่อทั้งหมด 6-7 จุด ใช้สายไฟฉนวนหุ้มสีแดง ม.ละไม่เกิน 30 บ. วิธีการประกอบสาย 1.วัดความยาวเผื่อการเดินเก็บสายให้พอดี (ยิ่งสั้นยิ่งดี) 2. ตัดสายตามความยาวของแต่ละจุดแล้วปอกปลายสายนำมารวมกั นที่ขั้วทองรวมสาย ขันให้แน่น แล้วนำท่อหดมาใส่ช่วงโคนสายรวมทั้งหมดเพื่อความสวยงา ม 3.ปอก ปลายสายของแต่ละเส้นเพื่อที่จะนำไปไส่ในขั้วต่อหางปล า โดยปอกปลายออกประมาณ 1ซม. แยกตัวหางปลาออกเป็นสองส่วนโดยใช้มือหมุนให้แยกออกจา กกัน หลังจากนั้นนำปลายสายเสียบเข้าไปที่ตัวขั้วกระบอกด้า นท้ายให้สายช่วงที่เป็น ทองแดงหรือเงินพ้นออกจากปลายกระบอก ประมาณ 2-3 มม. แล้วพับปลายให้บานเหมือนดอกเห็ด ก่อนที่จะเอาปลายส่วนที่เป็นตัวหางปลามาหมุนติดกับตั วด้ามกระบอก ทำเช่นนี้จนครบทุกปลาย จะสังเกตุได้ว่าในการประกอบสายจะไม่ยุ่งยากเลยเพราะว ่าสามารถต่อได้ด้วยตัว ของมันเองเสร็จแล้วนำชุดสาย Ground ที่ได้นำไปติดตั้งตามจุดต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้แต่แรก ข้อควรระวังก็คือ ให้ระวังในเรื่องส่วนของความร้อนและส่วนที่มีการเคลื ่อนไหว ส่วนในด้านความร้อนของตัวห้องเครื่องนั้น เราอาจใช้ท่อพลาสติกหุ้มสาย ground เพื่อป้องกันความร้อนและยืดอายุของสาย ground ไปอีก (ในรูปที่ผมทำยังไม่ได้ใส่ ยังหาซื้อไม่ได้แต่คงต้องหามาใส่แน่ๆ) ปกติ ทำแค่นี้ กับหาที่ล๊อคแบตเตอรี่ใหม่ ก็พอนะครับ ผมเห็นที่ล๊อคแบต แบบมีพ่วงสายพวกนี้ได้เลยก็มี เสียดายลืมถ่ายรูปมาให้ดู แต่คงไม่กี่ตังค์ครับ ล็อคเข้ากับสายแล้วต่อไปยังตำแหน่งที่จะลงกราวด์บนตั วรถก็ใช้ได้เลย แต่ผมจะทำเหมือนของแต่ง คือมีอะแดปเตอร์รอง ล็อคกับน๊อตสีอีกที แล้วค่อยไปล๊อคกับแบตเตอรี่น่ะครับ สรุปค่าใช้จ่าย 1.สายแบตขนาด 8 มม. 9 เมตร 315 บาท 2.หางปลา ตัวละ 15 บาท 10 ตัว 150 บาท 3.สายล๊อค สองห่อ 23 บาท 4.ตัวน๊อตล๊อก สีๆ ตกชุดละ 25 บาทx4 100 บาท รวมแล้ว 703 บาท *** เหลือแต่อะแดปเตอร์แปลง ก็ไม่น่าจะเกิน 100 บาท
แบบของอะแดปเตอร์

แบบที่ 1
แบบที่ 2 หัวแยกสายเป็นแบบนี้ ได้แบบนี้อะไรก็ง่ายขึ้นเยอะ อิอิอิ

แบบที่ 3 แบบเอื้ออาทร
วิธีการติดตั้ อาจจะไม่ค่อยจะเรียบร้อยนะครับ มัน สี่เส้น แต่เดินไว้แค่ 3 เส้น ยังไม่ได้จัดอะไรให้เรียบร้อย อยากออกไปลองวิ่งดูมากกว่า จุดที่ 1. จุดรวม ที่ฝาสูบ หรือตัวถัง ( จุดที่ 2. เสื้อเกียร์ 1จุด(ถ้าเป็นเกียร์ออโต) จุดที่ 3. น๊อตราวหัวฉีด หรือ ลิ้นผีเสื้อไอดี จุดที่ 4. คอมแอร์ จุดที่ 5. ไดชาร์ท จุดที่ 6. สังเกตว่าจะมีสายกราวน์ของเครื่องอยู่ เส้นสีดำเล็ก ใส่เพิ่มเข้าไปแล้วลากไปที่แบต ประมาณ 2 จุด ถ้าต่อครบแบบนี้ใช้สายประมาณ 7 ม.ครับ จุดที่ 7. แบตเตอรี่ขั้วลบ เทคนิคในการติดตั้งก็มีอยู่ ว่าพยายามใช้จุดยึดที่มีอยู่แล้วในตัวมันเองแต่ละจุด จะไม่ใช้การเสริมหรือสร้างจุดยึดขึ้นมาใหม่หากไม่จำเ ป็นจริงๆ ซึ่งก็ไม่ควรทำ และอาจมีการใช้กระดาษทรายหรือตะไปขัดสนิม , คราบน้ำมันเครื่อง ของจุดยึดต่างๆเพื่อการนำกระแสที่ดีของในแต่ละจุด ถ้าหากไม่แน่ใจว่าจุดที่ต่อจะถูกต้องหรือไม่ ให้ใช้ มิเตอร์แบบที่มีการตรวจสอบการครบของวงจรโดยที่จะมีเส ียงดังบอกสถานะ ก็ได้ จาก แบต ก็ไปที่ตัวแยกต่อไปกราวเดิม ตัวถังรถสามจุด คือตรงชุดไฟสองจุด ด้านขวาของรูปน่ะครับ กับตรงแถวๆ ที่ฉีดน้ำปัดน้ำฝนอีก 1 จุด และต่อไปตรงไดชาร์ตอีก 1 จุด (ไม่รู้ว่าเรียกถูกป่าวนะครับ) ตรงด้านซ้ายน่ะครับเหลืออีก 2 เส้น ว่าจะต่อไปที่เสื้อเกียร์ กับฝาสูบ แต่ยังหาน๊อตไม่ได้เลยว่างๆขยัน ลองทำดูนะ รับรองถ้าไม่ดีขึ้นก็ไม่แย่ลงแน่นอน อิอิอิ โชคดี... รายงานผลดังนี้ครับ 1. เครื่องเดินเรียบขึ้นครับ สังเกตได้เลย 2. เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่มีเสียงแก๊กๆ แต่ก่อนมี เพราะเลี้ยงครัทไม่พอ (ครัทหนักมาก) แต่ติดแล้วแปลกใจเหมือนกัน แต่มันไม่มีเสียงแล้ว ดีใจจัง 3. วิทยุไม่มีเสียงวีดๆ เวลาใช้ความเร็ว หรือลากรอบ 4. อัตราเร่งรู้สึกว่า เรียบขึ้น แต่ไม่ได้แรงขึ้นนะครับ smooth ขึ้นมากกว่า 5. อัตราเร่งทางใจ มามากกว่า 20 แรงม้าครับ 6. ภูมิใจครับ เปิดห้องเครื่องมาก็ไม่อายใคร " นี่ๆ กูทำเองงงง "

1 ความคิดเห็น: